ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Content Marketing

   


 Content Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดผ่านการสื่อสารด้วยคอนเทนต์ ประกอบด้วยศัพท์ 2 คำ ได้แก่ Content แปลว่าเนื้อหาหรือข้อความ รวมกับคำว่า Marketing ที่หมายถึง การทำการตลาด ทำให้การทำ Content Marketing นั้นหมายความถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์ลงในช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์, Social Media ฯลฯ เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด เช่น การส่งมอบคุณค่าหรือความรู้ของผลิตภัณฑ์, กระตุ้นการสร้าง Engagement ให้กับธุรกิจ, ช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายหรือช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายจนนำไปสู่การสร้าง Conversion เป็นต้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

7 ขั้นตอนการสร้างกลยุทธ์ Content Marketing

เมื่อทุกคนได้รู้ถึงความหมายและองค์ประกอบของการทำ Content Marketing Strategy กันไปแล้วในส่วนนี้เราขอมาอธิบายขั้นตอนการสร้างกลยุทธ์ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้กับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของธุรกิจคุณได้ โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 7 ขั้นตอนดังนี้ 1. กำหนด Persona ที่ธุรกิจของคุณต้องการ  สร้าง Persona ที่คุณต้องการเจาะตลาดและทำการสื่อสาร เพื่อเป็นเหมือนรากฐานที่ดีและทำให้คุณได้รู้ว่าในการทำคอนเทนต์ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ จะต้องสื่อสารแบบใด 2. วิเคราะห์ผลลัพธ์การทำ Content Marketing ที่เคยทำ หากธุรกิจของคุณเคยทำ Content Marketing มาก่อนแล้ว ให้นำผลลัพธ์ของการทำ Content Marketing ที่คุณเคยทำมาวิเคราะห์เพื่อดูว่าในการทำคอนเทนต์ของแบรนด์มีผลตอบรับเป็นอย่างไร ได้ Engagement ดีไหม หรือยังขาดตกบกพร่องในส่วนใดไปหรือเปล่า โดยคุณสามารถดูผลลัพธ์ของการทำ Content Marketing ที่ผ่านมาได้จาก Tools เช่น  Facebook Business Manager , Google Analytics ฯลฯ  3. เปรียบเทียบกับการทำ Content Marketing ในปัจจุบัน ลองนำผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Content Marketing ในอดีตมาเปรียบเทียบกับผลลัพธ

ตัวอย่าง Content Marketing จากแบรนด์ดัง

เราลองมาดูตัวอย่างการทำ Content Marketing จากแบรนด์ผู้นำด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Apple ที่มีวิธีการสร้างสรรค์ Content Marketing ที่เรียกได้ว่าทำน้อย ได้มากของจริง และเป็นการแสดงให้ทุกคนบนโลกเห็นว่า พลังของตัวอักษรบนคอนเทนต์ของพวกเขา เข้าถึงผู้บริโภคได้มากเพียงใด ถ้าคุณสังเกตเวลาเข้าไปยังเว็บไซต์ของ Apple และเลือก Product มาสักชิ้นคุณจะเห็นถึงการเขียน Heading บนเว็บไซต์และการใช้ภาพถ่ายของสินค้าที่ดึงดูดจนเราทุกคนเห็นภาพตามได้อย่างง่ายดายจนอยากที่จะครอบครองผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ตัวอย่างเช่น Ipad Air ที่ Apple เขียนจั่วหัวมาว่า Light in your backpack, Heavy on features ที่แปลว่าเบาเมื่ออยู่ในกระเป๋าแต่หนักที่ฟีเจอร์การใช้งาน และเมื่อกดเข้าไปยังเว็บไซต์คุณก็จะได้เจอกับภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของสินค้าที่ทำให้คุณเห็นภาพของผลิตภัณฑ์ครบทั้ง 360 องศาทุกมุมทุกด้าน พร้อมกับคอนเทนต์ในหน้าเว็บไซต์ที่อธิบายถึงจุดเด่นและสเปคของการใช้งาน Ipad รุ่นนี้แบบละเอียด ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้บนเว็บไซต์ทั้งภาพและตัวหนังสือสามารถช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าพร้อมกับการตอบคำถามสิ่งที่ผู้ที่กำลังจะซื้อ Ipad