ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

ตัวอย่าง Content Marketing จากแบรนด์ดัง

เราลองมาดูตัวอย่างการทำ Content Marketing จากแบรนด์ผู้นำด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Apple ที่มีวิธีการสร้างสรรค์ Content Marketing ที่เรียกได้ว่าทำน้อย ได้มากของจริง และเป็นการแสดงให้ทุกคนบนโลกเห็นว่า พลังของตัวอักษรบนคอนเทนต์ของพวกเขา เข้าถึงผู้บริโภคได้มากเพียงใด ถ้าคุณสังเกตเวลาเข้าไปยังเว็บไซต์ของ Apple และเลือก Product มาสักชิ้นคุณจะเห็นถึงการเขียน Heading บนเว็บไซต์และการใช้ภาพถ่ายของสินค้าที่ดึงดูดจนเราทุกคนเห็นภาพตามได้อย่างง่ายดายจนอยากที่จะครอบครองผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ตัวอย่างเช่น Ipad Air ที่ Apple เขียนจั่วหัวมาว่า Light in your backpack, Heavy on features ที่แปลว่าเบาเมื่ออยู่ในกระเป๋าแต่หนักที่ฟีเจอร์การใช้งาน และเมื่อกดเข้าไปยังเว็บไซต์คุณก็จะได้เจอกับภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของสินค้าที่ทำให้คุณเห็นภาพของผลิตภัณฑ์ครบทั้ง 360 องศาทุกมุมทุกด้าน พร้อมกับคอนเทนต์ในหน้าเว็บไซต์ที่อธิบายถึงจุดเด่นและสเปคของการใช้งาน Ipad รุ่นนี้แบบละเอียด ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้บนเว็บไซต์ทั้งภาพและตัวหนังสือสามารถช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าพร้อมกับการตอบคำถามสิ่งที่ผู้ที่กำลังจะซื้อ Ipad
โพสต์ล่าสุด

เครื่องมือสำหรับการทำคอนเทนต์ (Content Marketing Tools)

ในการทำ Content Marketing นั้นถ้าอยากให้ได้ผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คุณอาจจะต้องอาศัยการนำเครื่องมือสำหรับการทำคอนเทนต์ (Content Marketing Tools) มาประยุกต์ใช้กับการสร้างสรรค์หรือวัดผลการทำงานของคุณด้วย โดยเราจะขอแนะนำเครื่องมือยอดนิยม 2 ตัวได้แก่ 1. Google Analytics & Google Tag Manager Google Analytics และ Google Tag Manager เป็นเครื่องมือในการวัดผลเพื่อดูค่า Metrics ต่าง ๆ ที่สำคัญของการทำ Content Marketing บนเว็บไซต์โดยเฉพาะคอนเทนต์ประเภท บทความ ที่เผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ของธุรกิจคุณ โดยการใช้งาน Google Analytics & Google Tag Manager จะช่วยให้คุณดู Metrics ที่สำคัญเช่น Page Views, Conversion, Average Time Spend และปัจจัยอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถรู้ถึงกลุ่มคนที่กดเข้ามาอ่านบทความของคุณได้ว่าเป็นใคร มาจากไหน เพศอะไร ใช้อุปกรณ์อะไรในการเข้ามาอ่านคอนเทนต์ ช่วยทำให้คุณวิเคราะห์ผลลัพธ์และนำมาปรับปรุงพัฒนาการทำคอนเทนต์บทความในเว็บไซต์ของธุรกิจได้ตลอดเวลาผ่านหน้า Dashboard ที่มีการอัปเดตแบบ Real Time 2. WordPress WordPress คือระบบการทำงานหลังบ้านของเว็บไซต์ที่มีหน้าที่เ

7 ขั้นตอนการสร้างกลยุทธ์ Content Marketing

เมื่อทุกคนได้รู้ถึงความหมายและองค์ประกอบของการทำ Content Marketing Strategy กันไปแล้วในส่วนนี้เราขอมาอธิบายขั้นตอนการสร้างกลยุทธ์ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้กับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของธุรกิจคุณได้ โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 7 ขั้นตอนดังนี้ 1. กำหนด Persona ที่ธุรกิจของคุณต้องการ  สร้าง Persona ที่คุณต้องการเจาะตลาดและทำการสื่อสาร เพื่อเป็นเหมือนรากฐานที่ดีและทำให้คุณได้รู้ว่าในการทำคอนเทนต์ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ จะต้องสื่อสารแบบใด 2. วิเคราะห์ผลลัพธ์การทำ Content Marketing ที่เคยทำ หากธุรกิจของคุณเคยทำ Content Marketing มาก่อนแล้ว ให้นำผลลัพธ์ของการทำ Content Marketing ที่คุณเคยทำมาวิเคราะห์เพื่อดูว่าในการทำคอนเทนต์ของแบรนด์มีผลตอบรับเป็นอย่างไร ได้ Engagement ดีไหม หรือยังขาดตกบกพร่องในส่วนใดไปหรือเปล่า โดยคุณสามารถดูผลลัพธ์ของการทำ Content Marketing ที่ผ่านมาได้จาก Tools เช่น  Facebook Business Manager , Google Analytics ฯลฯ  3. เปรียบเทียบกับการทำ Content Marketing ในปัจจุบัน ลองนำผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Content Marketing ในอดีตมาเปรียบเทียบกับผลลัพธ

รูปแบบ Content Marketing มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ในการทำ Content Marketing ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นอันดับแรกเราต้องรู้จักกับรูปแบบของการสร้างสรรค์ Content ก่อนซึ่งสามารถแยกออกมาได้เป็น 7 ประเภทดังนี้ 1. Promotional Content คอนเทนต์ที่ช่วยสื่อสารการทำโปรโมชันกระตุ้นกิจกรรมส่งเสริมการขาย ลด แลก แจก แถม ของตัวสินค้าที่คุณต้องการขายให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการตัดสินใจซื้อ โดยคุณสามารถสร้างกติกาในการให้ผู้ติดตามสร้าง Engagement อะไรบางอย่างเช่น คอมเมนต์, ไลก์ หรือ แชร์ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ  2. Solvable Content  เป็นคอนเทนต์ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาหรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ติดตาม เช่น เทคนิคการใช้ไอโฟน วิธีทำให้หน้าใสไร้สิว วิธีการเลือกกางเกงยีนให้เข้ากับคุณ เป็นต้น ซึ่งต้องเป็นเนื้อหาคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณด้วยจะทำให้ผู้ติดตามเห็นถึงคุณค่าที่คุณต้องการส่งมอบผ่านการทำคอนเทนต์ 3. Video Content คอนเทนต์ที่นำเสนอเรื่องราวผ่านภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอ เป็นอีกหนึ่งประเภทของคอนเทนต์ที่จะทำให้ผู้ชมสามารถเห็นภาพของสิ่งที่คุณต้องการนำเสนอได้อย่างชัดเจนให้อารมณ์ร่วมเข้าถึงอารมณ์ได้เร็วกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่น ๆ ซึ่งต้องอาศัยความคิ

ลักษณะการทำ Content ที่ดี

  เราลองมาดูลักษณะการทำ Content ที่ดีบ้างว่าหากธุรกิจของคุณต้องการทำ Content ให้ออกมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสามารถนำไปสู่การได้มาซึ่งสิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องการได้ ควรต้องใส่ใจกับอะไรบ้างในการทำคอนเทนต์ออกมาชิ้นหนึ่ง  สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการเล่าเรื่องที่น่าดึงดูดให้ติดตามต่อ มีองค์ประกอบของคอนเทนต์ที่ดึงดูด เจาะจงกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มีความสม่ำเสมอในการเผยแพร่คอนเทนต์ สามารถส่งมอบคุณค่าของธุรกิจไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้ มีความสดใหม่ ตามเทรนด์ ไม่มีเนื้อหาเชิงลบหรือเนื้อหาที่ขัดต่อหลักจริยธรรม ต้องให้ประโยชน์กับธุรกิจในแง่ใดแง่หนึ่ง ช่วยแก้ปัญหาหรือตอบคำถามให้ลูกค้าได้

เป้าหมายการทำ Content Marketing

เป้าหมายการทำ Content Marketing นั้นแน่นอนว่านอกจากจะเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้าแล้ว การทำ Content Marketing ยังสามารถช่วยธุรกิจของคุณได้อีกในด้านต่าง ๆ ดังนี้ Brand Awareness – การสร้าง Brand Awareness หรือการสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมาย การรับรู้ภาพลักษณ์ของแบรนด์จะช่วยให้สินค้าหรือบริการของธุรกิจคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น กลุ่มเป้าหมายเข้าใจถึงประโ ยชน์ที่คุณต้องการจะมอบให้ได้ดีขึ้น  Lead Conversion & Nurturing – การทำ Content Marketing เป็นเหมือนการหล่อเลี้ยงและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าเป้าหมาย ให้เขาเปลี่ยน Stage มาตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การสร้าง Conversion ได้ Customer Conversion – ช่วยส่งเสริมการขายสร้างยอด Conversion, Lead ได้เป็นอย่างดี เพราะกลุ่มเป้าหมายจะเริ่มคุ้นเคยและติดตามคอนเทนต์ที่คุณเผยแพร่ ทันทีที่พวกเขาพบเจอกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์คุณที่ตรง กับความต้องการของเขา ก็ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะเกิดความไว้วางใจในแบรนด์คุณแล้ว Customer Service – การสร้างคอนเทนต์เป็นส่วนหนึ่งใ

Content Marketing

     Content Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดผ่านการสื่อสารด้วยคอนเทนต์ ประกอบด้วยศัพท์ 2 คำ ได้แก่ Content แปลว่าเนื้อหาหรือข้อความ รวมกับคำว่า Marketing ที่หมายถึง การทำการตลาด ทำให้การทำ Content Marketing นั้นหมายความถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์ลงในช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์, Social Media ฯลฯ เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด เช่น การส่งมอบคุณค่าหรือความรู้ของผลิตภัณฑ์, กระตุ้นการ สร้าง Engagement  ให้กับธุรกิจ, ช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายหรือช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายจนนำไปสู่การสร้าง Conversion เป็นต้น